Cherry Blossom 2015

ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงกว่าจึงจะถึง Beppu เมืองแห่งน้ำพุร้อน หน้าสถานีจะมีรูปปั้นของ Kumahachi Aburaya หรือ Shiny Uncle who loved children

Aburaya เป็นคนผลักดันให้ Beppu แจ้งเกิดเป็นเมืองท่องเที่ยวแข่งรัศมีกับเมืองอื่นๆ ... Motto ที่เป็น Classic ในการโปรโมทชักชวนให้ผู้คนรู้จัก Beppu ถูกจารึกไว้ที่แท่นให้เป็นเกียรติแก่ Aburaya
" The best of Japan: Mt. Fuji, Seto Inland Sea and Beppu Hot Spring"

ระหว่านั่งรถไฟเข้าเขตเมืองจะเห็น ควันไอร้อนลอยขึ้นจากบ้านต่างไปทั่วเมือง ทำให้นึกถึง เกาะ Kyushu อยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟมีภูเขาไฟอย่าง Aso ที่ยัง Active อยู่ เมืองต่างเขตนี้มีบ่อน้ำพุร้อนกระจายไปทั่ว

Highlight ของทัวร์บ่อน้ำพุร้อนก็คงไม่พ้น Jigoku Meguri หรือ Hell Tour ... ทัวร์นรก ... 555 ตั้งชื่ออย่างดุเลย ก็ตรงๆ Jigoku แปลว่า นรก .... ทัวร์นี่จะมีจุดแวะอยู่ 8 จุดตามรูปข้างบนเลย ใครมีเวลาก็จัดตั๋วเหมา 2,100 Yen ด้วยเวลาจำกัดเลยแวะได้แค่ 2-3 บ่อเท่านั้น ตั๋วแยกบ่อละ 400 Yen

ก่อนลุยต้องจัดการมื้อเที่ยงก่อน ว่าไปนี่มันบ่ายสองแล้วอะ ... การไป Umi Jigoku ไปได้หลายสาย ดูตารางแล้วเร็วสุดน่าจะสาย 41 ออกเวลา 14:50 ขึ้นที่ป้ายที่ 2 ใช้เวลา 18 นาที ลงป้าย Umi Jigoku Mae ดูท่าตั๋ววัน 900 Yen ไม่คุ้มไปจ่ายบนรถดีกว่า

ป้าย 2

สาย 41

เห็นหน้าตาแบบนี้ฝั่งตรงข้ามถึง Umi Jinkogu เตรียมลงได้เลย

บ่อแรก Umi Jigoku จ่ายก่อน 400 Yen

Umi Jigoku หรือ Sea Hell .... ทะเลเดือด ... 555 ... อายุ 1,200 ปี

ทางเข้ามีสระบัว แต่วันนี้ไม่ค่อยเห็นบ้วเท่าไหร่ มี Sakura กำลังบานอยู่ประปาย

Umi Jigoku บ่อนี้มีบ่อน้ำร้อนเป็นสีฟ้า เพราะมีสารประกอบพวก Cobalt เป็นบ่อยอดฮิต

มาถึงไอความร้อนพวยพุ่งออกมาแบบไม่หยุด อุณภุมิ 98 องศา C มีไม้คานพร้อมตะกร้า สงสัยเอาไว้ลวกไข่โชว์

Close Up ไอร้อนนี้จะออกมาตามแนวหิน

มีศาลเจ้าให้ขึ้นไปสักการะ ดูเวลาแล้วคงไม่พอ

Umi Jigoku นอกจากบ่อน้ำพุ่สีฟ้า ยังมีอีกบ่อที่เป็นสีแดง
มีพวกแร่สนิมเหล็ก ต้องการดูแบบ Hard Hard ต้องไปบ่อที่ 7 Chinoike Jigoku บ่อสีเลือด Trip นี้หมดโอกาส